การทำสมาธิ ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลได้อย่างไร ?
การทำสมาธิ เป็นอีกหนึ่งเครื่องมืออันทรงพลังที่สามารถใช้เพื่อช่วยลดความเครียดหรือความวิตกกังวลต่าง ๆ ของคุณได้ อีกทั้งยังมีผลโดยตรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตอย่างเห็นได้ชัด
- การทำสมาธิถูกใช้เป็นวิธีการบำบัดความเครียดมานานหลายพันปี และในงานวิจัยหลาย ๆ ต่อก็แสดงให้เห็นว่าสมาธิที่ดีจะนำไปสู่สุขภาพที่ดีด้วยเช่นกัน วันนี้เราไปรู้จักกับประโยชน์ของการทำสมาธิ ว่ามันมีผลต่อการลดความเครียดและความวิตกกังวลอย่างไรบ้าง และทำไมการทำสมาธิจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพจิตของคุณ
การทำสมาธิ ช่วยให้มีสติได้อย่างไร?
- การทำสมาธิ คือการมุ่งความสนใจไปยังเวลาปัจจุบันมากกว่าที่จะคิดถึงอนาคตหรือเรื่องราวในอดีต สิ่งสำคัญของการทำสมาธิคือการรู้ตัวเองอยู่เสมอว่ากำลังทำอะไรอยู่ มีสติและรู้ถึงสถานการณ์รอบข้างแต่ไม่ฟุ้งซ่าน ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การหายใจลึกๆ การโฟกัสร่างกาย และการฝึกสติ เป้าหมายของการทำสมาธิคือการช่วยให้คุณพัฒนาทักษะการรับรู้ความคิด ความรู้สึก และความรู้สึกต่างๆ ของตัวเอง และช่วยให้คุณมีสภาพจิตใจที่ผ่อนคลาย มั่นคงมากขึ้น
ทำสมาธิช่วยลดความเครียดและวิตกกังวล
- ประโยชน์ที่สำคัญที่สุดประการหนึ่งของการทำสมาธิคือมันสามารถช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวลของคุณได้เป็นอย่างดร จากงานวิจัยพบว่าการทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดระดับของคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเครียด และมันสามารถนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่มากมายหลายโรค เช่นโรคเครียด โรคแพนิค โรคหลายบุคลิก ภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถควบคุมอารมณ์ได้ง่ายขึ้น อารมณ์ดีขึ้น อีกด้วย
ทำสมาธิช่วยส่งเสริมสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ
- นอกเหนือจากการลดความเครียดและความวิตกกังวลแล้ว การทำสมาธิแบบยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายสำหรับสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณ ตัวอย่างเช่น การทำสมาธิเป็นประจำจะส่งผลให้การนอนหลับของคุณนั้นมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไม่สะดุ้งตื่นกลางดึก หลับสนิท เพิ่มความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น
การทำสมาธิยังช่วยให้คุณสามารถโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นทั้งในระหว่างเรียนหรือทำงาน ลดความรู้สึกโกรธและความหงุดหงิด
เริ่มต้นทำสมาธิเพื่อสุขภาพที่ดีทำอย่างไรบ้าง
- หาที่นั่งหรือนอนที่เงียบสงบและสบาย หากเป็นไปได้แนะนำให้เป็นพื้นที่ธรรมชาติ เช่น สวนหลังบ้าน ป่า และอาจจะใช้น้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ช่วยให้ผ่อนคลายซึ่งจะทำให้การทำสมาธิของคุณนั้นง่ายมากขึ้น
- แบ่งเวลาสักสองสามนาทีต่อวันเพื่อฝึกทำสมาธิ เวลาที่แนะนำคือไม่เกิน 10 นาทีต่อวันเพราะหากนานเกินไปอาจจะมีผลในเรื่องของภาวะนั่งเนือยนิ่งได้สำหรับมือใหม่ ค่อย ๆ เพิ่มเวลาเมื่อคิดว่าตัวเองมีสมาธิที่ดีขึ้นแล้ว
- จดจ่อกับลมหายใจของคุณ พยายามรับรู้ถึงการหายใจเข้าและหายใจออกแต่ละครั้ง ถ้าความคิดเริ่มฟุ้งซ่าน ให้ค่อยๆ ดึงความสนใจกลับมาที่ลมหายใจ
- พยายามอยู่กับปัจจุบัน ไม่ตัดสินว่าความรู้สึกของตัวเองผิดหรือถูก เพียงแค่รับรู้ว่าตัวเองรู้สึกอะไรอย่างไม่อคติ
- ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ พยายามทำให้การทำสมาธิเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันของคุณ
อย่าลืมว่า การทำสมาธิแบบเจริญนั่นจำเป็นต้องใช้การฝึกฝน และอาจต้องใช้เวลาจึงจะเห็นผล อย่างไรก็ตาม หากคุณฝึกฝนเป็นประจำ ทำอย่างสม่ำเสมอ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน คุณจะได้รับประโยชน์มากมายจากการทำสมาธิ ไม่ว่าคุณจะต้องการลดความเครียดหรือความวิตกกังวล ปรับปรุงการนอนหลับของคุณ หรือเพียงแค่อยากเป็นคนที่มองโลกในแง่บวก อารมณ์ดีอยู่สม่ำเสมอ การทำสมาธิถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ได้ผลดีสุด ๆ เลยทีเดียว